วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

องุ่น

การปลูกองุ่น
              สิ่งแรกที่ต้องรู้อย่างแรกในการปลูกองุ่นนั้นก็คือ ต้องรู้ว่า องุ่น ชอบสภาพอากาศแบบไหน องุ่นชอบสภาพอากาศร้อนชื้นทำให้แหล่งที่ปลูกมากที่สุดก็คือ ภาคตะวันออก แต่เมื่อมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มากขึ้นตอนนี้ก็มีการขยายไปปลูกที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือบ้างแล้ว
ดินที่เหมาะสำหรับการปลูกนั้นจะเป็นดินเหนียวปนดินร่วนตามที่ราบลุ่มแม่น้ำ ที่สำคัญที่สุดก็คืออยู่ใกล้แหล่งน้ำเพราะองุ่นเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก น้ำเป็นส่วนประกอบหลักขององุ่น และที่สำคัญต้องไม่ใช่พื้นที่ที่มีน้ำท่วมด้วย ก่อนปลูกควรจะเตรียมดินให้เรียบร้อย และยกร่องให้เป็นแนวเพื่อสะดวกในการดูแลรักษา เมื่อยกร่องเสร็จแล้ว ก็ขุดหลุมลึกประมาณ 50 เซนติเมตร นำปุ๋ยรองก้นหลุมก่อน โดยระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ 3×4หรือ3.50×5 เมตร ซึ่งหลังจากเตรียมหลุมเสร็จแล้วก็เอาต้นองุ่นที่เตรียมไว้มาลงหลุมกลบดินอย่าให้แน่นเกิน และรดน้ำในทันที่และอย่าลืมอย่างเด็ดขาดต้องสร้างที่บังแดดให้กับต้นองุ่นด้วยเพราะช่วงเปลี่ยนถ่ายนี้เป็นช่วงที่องุ่นจะอ่อนแอที่สุดเราต้องดูแลให้มาก
              ที่นิยมปลูกในประเทศไทยมีอยู่ 2 พันธุ์ด้วยกันพันธุ์แรกคือ พันธุ์ไวท์มะละกา เป็นพันธุ์ที่ปลูกมากที่สุดโดยเน้นปลูกเพื่อเก็บผล โดยแบ่งย่อยออกเป็น 2 สายพันธุ์หลักตามลักษณะของผลที่ออกมา คือ ชนิดผลกลม และผลยาว โดยจุดเด่นของสายพันธุ์นี้คือจะมีช่อใหญ่ มีลูกเยอะ หนึ่งปีให้ผลผลิต 2 ครั้ง ส่วนอีกพันธุ์หนึ่งคือพันธุ์คาร์ดินัล องุ่น พันธุ์นี้จะมีสีม่วงที่เราเห็นกันทั่วไปในท้องตลาด เหตุเพราะว่าการดูแลง่ายง่านและให้ผลผลิตสูง เก็บผลผลิตได้ 5 ครั้งต่อปี ซึ่งราคาจะถูกกว่าพันธุ์ไวท์มะละกา จึงไม่ค่อยนิยมปลูกเท่าไร ส่วนเรื่องการขยายพันธุ์นิยมใช้การตอนกิ่ง ติดตา การเสียบยอด และการเสริมรากมากกว่าปลูกด้วยเมล็ดด้วยเหตุว่าปลูกด้วยเมล็ดอาจจะทำให้ต้นกลายพันธุ์และไม่ทนต่อโรค
การดูแลรักษาองุ่นควรที่จะใส่ปุ๋ยรดน้ำและตัดแต่งกิ่งอยู่เสมอ
              สิ่งสำคัญที่สุดในการปลูกพืชทุกชนิดก็คือการเข้าใจหลักธรรมชาติของสิ่งที่เราปลูกการดูแลรักษาเลยต้องมีการเอาใจใส่อย่างมาก เมื่อ องุ่น อายุครบได้หนึ่งปีก็ควรที่จะทำค้างให้กับองุ่นด้วย และมั่นที่จะกำจัดวัชพืชพร้อมทั้งใส่ปุ๋ยรดน้ำ พร้อมทำการตัดแต่กิ่งและเถ้าอย่างสม่ำเสมอด้วย
ราคาองุ่น

              องุ่นพันธุ์ไวท์มะละกาตามท้องตลาดเรียกว่าองุ่นเขียวไทย ที่อัพเดทล่าสุดก็อยู่ประมาณ 35 ถึง 60 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่ทำให้ผู้ปลูกนั้นอยู่ได้เลยทีเดียวนอกจากผลสดจะขายได้แล้วก็ยังมีการนำองุ่นมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นอีก อาทิ ไวน์ หรือยาบำรุง เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น